การตัดสินใจเลือกซื้อโทรศัพท์ iPhone มือสอง นั้นเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานสมาร์ตโฟนคุณภาพสูงในราคาที่ประหยัดกว่า ด้วยราคา iPhone มือสอง ที่ถูกกว่าเครื่องใหม่ราว 30 – 50% (ขึ้นอยู่กับรุ่นและสภาพเครื่อง) ทำให้หลายคนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น แต่การเลือกรุ่นที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
ใช้ iPhone มือสองรุ่นไหนดี? เทียบรุ่นฮิต iPhone 11, 12 และ 13
ในตลาด iPhone มือสอง รุ่นที่เป็นที่นิยมสูงและมีราคาที่เข้าถึงง่าย ได้แก่ iPhone 11, iPhone 12 และ iPhone 13 โดยแต่ละรุ่นนั้นมีจุดเด่นและข้อแตกต่างดังนี้
iPhone 11
iPhone 11 ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดมือสอง ด้วยประสิทธิภาพที่ยังตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดี ตัวเครื่องมาพร้อมชิป A13 Bionic ที่ยังทรงพลังเพียงพอสำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันทั่วไปได้อย่างลื่นไหล ซึ่งมาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.1 นิ้วให้ความคมชัดและสีสันสดใสในขนาดที่พอดีมือ แม้จะไม่สดเท่าจอ OLED ในรุ่นที่สูงกว่า แต่ก็ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป
ระบบกล้องคู่ความละเอียด 12MP ยังคงถ่ายภาพได้สวยงาม โดยเฉพาะโหมด Night Mode ที่ช่วยให้ถ่ายภาพกลางคืนได้คมชัด แบตเตอรี่ขนาด 3,110 mAh ให้ระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานถึง 17 ชั่วโมง ทั้งนี้ ข้อจำกัดของ iPhone 11 คือ ไม่รองรับ 5G และวัสดุตัวเครื่องที่ใช้อะลูมิเนียมอาจเกิดรอยได้ง่าย โดยราคา iPhone11 64GB สีขาว มือสอง รวมถึงสีอื่นๆ ในปัจจุบันเริ่มต้นที่ประมาณ 9,000 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการจำกัดงบประมาณ
iPhone 12
iPhone 12 ถือเป็น iPhone รุ่นแรกที่มีคุณสมบัติรองรับ 5G และดีไซน์ใหม่ที่เป็นเหลี่ยมมุม ตัวเครื่องใช้ชิป A14 Bionic ที่ประมวลผลเร็วขึ้น 20% เมื่อเทียบกับชิป A13 หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้วให้สีสันสมจริงและความคมชัดที่สูงขึ้น พร้อมใช้วัสดุอย่าง Ceramic Shield ในการผลิตหน้าจอ จึงช่วยเพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วนและการกระแทรกได้ดีขึ้น
ส่วนระบบกล้องได้รับการปรับปรุงให้ถ่ายภาพกลางคืนได้ดีขึ้น รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision โดยราคา iPhone12 โปรแมกซ์128GB สีทองมือสอง และสีอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 18,500 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่รองรับเทคโนโลยีล่าสุดในราคาที่ไม่สูงเกินไป
iPhone 13
iPhone 13 นำเสนอการปรับปรุงที่สำคัญในหลายด้านจากรุ่นก่อนๆ โดยเฉพาะประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 2.5 ชั่วโมง มาพร้อมกับชิปประมวลผล A15 Bionic ที่มอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าทั้งด้านการประมวลผลและกราฟิก หน้าจอ Super Retina XDR OLED ที่ให้ความสว่างสูงสุดถึง 1200 nits ทำให้ใช้งานกลางแจ้งได้สบายตา
ระบบกล้องที่หลายคนให้ความสนใจก็ได้รับการปรับปรุงเซนเซอร์ให้รับแสงได้ดีขึ้นถึง 47% อีกทั้งยังมาพร้อมระบบกันสั่นแบบ Sensor-Shift ที่เคยมีเฉพาะในรุ่น Pro เท่านั้น ทำให้ถ่ายภาพได้คมชัดและวิดีโอได้นิ่งแม้ในที่แสงน้อย ทั้งนี้ ราคาเริ่มต้นของ iPhone 13 มือสองในตลาดอยู่ที่ราวๆ 20,000 บาท ซึ่งอาจสูงขึ้นหรือต่ำลงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
แนะนำวิธีเลือกซื้อ iPhone มือสอง
ในการซื้อ iPhone มือสอง แน่นอนว่าต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ iPhone ของแท้ เครื่องยังสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่มีรอยขีดข่วนหรือความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวเครื่อง โดยมีวิธีการตรวจสอบ iPhone มือสองเบื้องต้น ดังนี้
1. การตรวจสอบสภาพเครื่องภายนอก
การตรวจสอบสภาพภายนอกเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ โดยแนะนำให้เริ่มจากการสังเกตรอยบุบ โดยเฉพาะบริเวณขอบและมุมต่างๆ ของตัวเครื่อง ควรตรวจสอบหน้าจออย่างละเอียดภายใต้แสงสว่าง นอกจากนี้ควรลองหา Dead Pixel ที่อาจซ่อนอยู่ในหน้าจอว่า มีจุดที่หน้าจอไม่สามารถแสดงภาพหรือแสดงผลภาพผิดเพี้ยนไปหรือไม่ ส่วนพอร์ตชาร์จ (Charging Port) ควรอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยไหม้หรือการกัดกร่อน ลำโพงควรมีเสียงดังชัดเจน ไม่ส่งเสียงแบบแตกๆ ปุ่มกดต่างๆ ควรมีความฝืดที่พอดี ไม่หลวมหรือติดขัด
2. การตรวจสอบระบบภายใน
เริ่มจากการตรวจสอบประกันเครื่องผ่านเว็บไซต์ Apple โดยใช้หมายเลข IMEI หรือ Serial Number ที่สามารถพบได้ใน Setting > About เพื่อดูว่ายังมีการรับประกันหรือเป็นเครื่องแท้จากศูนย์หรือไม่ ต่อมา ให้ทดสอบกล้องทั้งหน้าและหลังในสภาพแสงต่างๆ ตรวจสอบการโฟกัส และคุณภาพวิดีโอ ระบบเสียงควรทดสอบทั้งลำโพงและไมโครโฟนผ่านการโทรและเล่นมีเดีย ในส่วนของสุขภาพแบตเตอรี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งโดยทั่วไป แนะนำว่าให้เลือกโทรศัพท์ iPhone มือสองที่มีความจุเหลือมากกว่า 85% เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน หากต่ำกว่านี้ อาจเจรจาต่อรองราคาโดยคำนึงถึงค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่เพิ่มเติม
3. การตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ทดสอบการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตรวจสอบ Bluetooth กับอุปกรณ์เสริมต่างๆ พร้อมเช็กสัญญาณโทรศัพท์ โดยควรเช็กทั้ง 4G และ 5G (สำหรับรุ่นที่รองรับ) พร้อมทดสอบการโทรเข้า-ออกเพื่อตรวจสอบคุณภาพเสียง
ข้อควรระวังในการซื้อ iPhone มือสอง
การซื้อ iPhone มือสองมีความเสี่ยงที่ต้องระวัง เช่น เครื่องที่เคยผ่านการแช่น้ำหรือจมน้ำมักมีปัญหาในระยะยาว แม้จะยังใช้งานได้ปกติในตอนแรก แบตเตอรี่บวมก็เป็นปัญหาร้ายแรงที่ต้องหลีกเลี่ยงหรือเปลี่ยนทันทีหลังซื้อ โดยสามารถสังเกตได้จากหน้าจอที่เผยอขึ้นหรือฝาหลังที่ไม่เรียบสนิท นอกจากนี้ ควรตรวจสอบประวัติการซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ผ่านการตั้งค่าของเครื่อง เพราะการใช้อะไหล่ไม่แท้อาจทำให้เครื่องทำงานผิดปกติและอาจเป็นอันตรายได้
เลือกแหล่งซื้อ iPhone มือสองที่น่าเชื่อถือ
การเลือกแหล่งซื้อที่น่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญ หากเป็นช่องทางออนไลน์หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ขายมือถือ ควรมีความน่าเชื่อถือ มีการรีวิวจากผู้ใช้งาน และประวัติการขายที่ดี แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์บางแห่งอาจมีการการันตีคุณภาพสินค้า ซึ่งถือว่าช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจได้ แต่ควรศึกษาเงื่อนไขการรับประกันและการคืนสินค้าให้ละเอียด
สรุป ใช้ iPhone มือสองรุ่นไหนดี? การเลือก iPhone มือสองควรพิจารณาจากการใช้งานและงบประมาณ สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด iPhone 11 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ให้ประสิทธิภาพคุ้มค่าในการใช้งานทั่วไป สำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง 5G และจอ OLED iPhone 12 อาจเป็นตัวเลือกที่ลงตัวมากกว่า ส่วน iPhone 13 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่จะใช้งานในระยะยาว ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น แม้ราคาจะสูงกว่า แต่ก็คุ้มค่าสำหรับการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน การตรวจสอบเครื่องอย่างละเอียดและเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าง MobileEX
ซื้อ iPhone มือสองกับ MobileEX อุ่นใจได้มากกว่า
แนะนำซื้อ iPhone มือสอง สภาพสวยกับ MobileEX (โมบายเอ็กส์) เพราะพวกเรา คือ บริษัทรีคอมเมิร์ซที่จัดจำหน่ายและรับซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคมือสอง ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ตโฟนทั้ง iPhone และ Andriod แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ที่ใช้แล้ว
สินค้าทุกชิ้นของเราผ่านการคัดสรรและตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ มั่นใจได้ถึงคุณภาพของสินค้าทุกชิ้น พร้อมจัดส่งที่รวดเร็ว อีกทั้งสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ง่ายเพียงไม่กี่ขั้นตอน
สามารถดูสินค้าและสั่งซื้อได้ที่ mobileex.co.th
ติดต่อเรา
โทร.: 098-356-1916
อีเมล: [email protected]